ประวัติแบรนด์ SHEIN
แบรนด์ SHEIN ทำยังไงให้มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 100,000 ดอลลาร์ 
เรียกได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์ SHEIN (ชีอิน) ยิ่งกลุ่มวัยรุ่น นักศึกษา รู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยคุณภาพ และราคา แต่เขาทำยังไงถึงมาจุดนี้ได้ วันนี้จะพาไปดูกัน SHEIN เริ่มต้นธุรกิจเมื่อปี 2008 ก่อตั้งโดย “Chris Xu” หรือ YangTian Xu หนุ่มนักธุรกิจชาวจีนในรูปแบบเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ เริ่มต้นขึ้นมาจากการส่งออกชุดแต่งงานผลิตในจีนไปยังประเทศฝั่งตะวันตก โดยใช้ชื่อว่า “She Inside” ในช่วงแรก แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปี เปลี่ยนเป็นธุรกิจ Fast Fashion ผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นตามกระแสมากขึ้น และเปลี่ยนชื่อเป็น SHEIN โดยเป็นธุรกิจแนว Fast Fashion ที่ไม่ว่าใครก็สามารถใส่ได้ โดยเน้นขายตรงราคาแบบโรงงานมาเองไปถึงมือผู้บริโภค ด้วยราคานักศึกษา, คุณภาพใช้ได้ และมีแบบให้เลือกหลากหลาย สามารถซื้อเปลี่ยนได้บ่อยเท่าที่ต้องการ จึงทำให้ชื่อของ SHEIN เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่ผู้บริโภคทั้งฝั่งเอเชีย อเมริกา ยุโรป และประเทศฝั่งตะวันออกแบบโตอย่างกับจรวด
จนกลางปี 2021 กลายเป็นแอปฯ ช้อปปิ้งที่มียอดดาวน์โหลดผ่าน App Store แซงหน้า Amazon ไปแล้วในสหรัฐอเมริกา การออกแบบเสื้อผ้าแต่ละครั้งของ SHEIN ยังรวดเร็วทันใจชนิดแซงแบรนด์รุ่นพี่ เพราะมีการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในการวิเคราะห์เทรนด์ใหม่ ๆ และการออกแบบเสื้อผ้า ใช้เวลาออกแบบและผลิตเพียงแค่ 3 วัน รวมบรรจุภัณฑ์พร้อมสรรพแล้วไม่เกิน 1 สัปดาห์เท่านั้น ว่ากันว่ามีแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นกว่า 2,000 แบบทุกวัน โดยจะผลิตออกมาเป็นตัวอย่างก่อนจำนวนไม่เยอะ และผลิตเพิ่มขึ้นเมื่อได้รับความนิยมมากขึ้น SHEIN ยังใช้กลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ ดัวยการทำการตลาดบน TikTok ด้วยการออกแบบที่ทันสมัย ราคานักศึกษา ผู้ซื้อบางคนบน TikTok จึงมักนำสินค้าจาก SHEIN มาทำคอนเทนต์ เช่น แฟชั่นต้อนรับหน้าหนาวราคาหลักร้อย จนทำให้ วัยรุ่นหญิงหลายคนพากันติดแฮชแท็ก #SHEINhaul เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับแบรนด์ SHEIN โดยแฮชแท็กดังกล่าว มียอดวิวรวมอยู่ที่ 13,800 ล้านวิวทีเดียว (22 ธันวาคม 2566) ความฮิตของ SHEIN ทำให้ในปี 2022 หลังจากระดมทุนเพิ่มได้ บริษัทมีมูลค่าอยู่ที่ 100,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่า H&M และ Zara แบรนด์รุ่นพี่ฟาสต์แฟชั่นรวมกัน โดยในปี 2022 แบรนด์ Zara มีมูลค่าประมาณ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่าแบรนด์ H&M อยู่ที่ประมาณ 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
